Learning log 6
ในห้องเรียน
การศึกษาในห้องเรียนครั้งนี้
ดิฉันได้ความรู้ในเนื้อหาทั้งหมด 2 ประเด็น คือ เรื่อง
Adjective Clause และการเปลี่ยน Adjective
Clause เป็น Adjective
phrase โดยในการเรียนครั้งนี้จะเน้นการลดประโยค เพื่อนำไปเขียนประโยคเป็น Adjective phrase ซึ่งการที่เราลดรูปประโยค
เพื่อทำให้ประโยคหรือบริบทที่เราเขียนนั้นมีความกระชับยิ่งขึ้น
ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป และเพื่อสร้างความหลากหลายในการใช้ภาษา
ไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจและน่าเบื่อ การลดรูปนั้นไม่ได้ทำให้ความหมายบิดเบือนไปจากเดิมซึ่งจะช่วยความกระชับของเนื้อหาแต่ก็ยังคงรักษาต้นฉบับเดิมไว้
ความหมายก็ยังเหมือนเดิม ประเด็นแรกคือ Adjective Clause คือ
อนุประโยคที่ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายคำนามAdjective Clause จะนำหน้าด้วย "คำเชื่อมสัมพันธ์ (Relative Pronouns) ซึ่งได้แก่คำต่อไปนี้คือ who, that, which, where, when, why ,whom,
whose, how, in which, of which, of whom เป็นต้น Relative Pronouns เป็นสรรพนามที่ใช้เชื่อมใจความสำคัญเข้าด้วยกันโดยใช้เชื่อม
Adjective Clause ที่ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่วางอยู่ข้างหน้าของมัน
การใช้ who ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคลหรือเกี่่ยวกับคนซึ่งเป็นประธานของใจความขยาย
หมายความว่า who ใช้เชื่อมคำนามหรือคำสรรพนาม
ที่เป็นบุคคลกับอนุประโยคที่ใช้ขยายหรือ แสดงลักษณะของนาม หรือสรรพนามตัวนั้น เช่น
He is the man who can play football very well. เขาคือผู้ชายที่สามารถเล่นฟุตบอลได้เก่งมาก เป็นการขยายประธาน คือ the
man whom ใชักับคำนามที่เป็นบุคคลหรือเกี่ยวกับคนซึ่งเป็นกรรมของใจความขยาย
หมายความว่า whom ใช้เชื่อมคำนามหรือคำสรรพนามที่เป็นบุคคลซึ่งเป็นกรรมของอนุประโยคที่มันขยาย
เช่น I saw some on whom
you know. ผม เห็นใครบางคนที่คุณรู้จัก whose ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของบุคคล
หมายความว่า whose ใช้เชื่อมคำนามหรือคำสรรพนามที่เป็นบุุคคลซึ่งวางอยู่ข้างหน้าของมันเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแทนคำนามหรือคำสรรพนามที่มันขยาย
เช่น This is the woman whose husband is a teacher. นี่คือผู้หญิงที่สามีของเธอเป็นอาจารย์
การใช้ which ใช้กับคำนามหรือคำสรรพนาม
ที่เป็นสิ่งของ สัตว์ ซึ่งหากเป็นกรรมของใจความขยาย ก็สามารถละทิ้งได้ เช่น This is the house which, belong to my
sister.นี้คือบ้านที่เป็นของพี่สาวของฉัน where ใช้กับคำนามประเภท สถานที่ ซึ่งถ้าหากเป็นกรรมของใจความขยาย ก็สามารถละทิ้งได้
เช่น That is the house ( where ) she lives. นั่นคือบ้านที่เธออาศัยอยู่
when ใช้กับคำนามที่บอกเวลา
เพื่อขยายที่อยู่ข้างหน้าของมัน เช่น I can't remember the year when I first met her. ฉันจำปีที่ผมพบเธอครั้งแรกไม่ได้
why ใช้ขยายคำนามที่มีความหมายถึงสาเหตุ เหตุผล คำอธิบาย
ซึ่งวางอยู่ข้างหน้าของมัน เช่น I would like to know the reason why you
are always late. ฉันอยากทราบเหตุผลว่าทำไมคุณถึงมาสายประจำ that ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคล
สัตว์ สิ่งของ สถานที่ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสามารถใช้แทน who, whom,
where, which ก็ได้ เช่น The robbers that robbed the bank
last week are arrested. คนร้ายที่ปล้นธนาคารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถูกจับได้แล้ว
การเปลี่ยนประโยคจาก Adjective
Clause ให้เป็น Adjective
Phrase สามารถทำได้โดย สิ่งแรกคือการลดรูป Relative clause ที่เป็น Adjective clause ให้เป็นวลี (Phrase)
โดยการใช้ V.3 และ V.ing เช่น A) The guy who
chattered with Big John through Skype a few days ago was Dave. ลดรูปเป็น
B) The guy chattering with Big
John through Skype a few days ago was Dave. หลักการลดรูป คือตัด Relative pronounทิ้ง (that, who, whom, which, whose, whom) แล้วเปลี่ยนกริยาที่ติดอยู่กับ Relative
pronouns ให้เป็น V.ing ในกรณีที่คำนามนั้นทำกริยาได้
หรือเปลี่ยนเป็น V.3 ถ้าคำนามนั้นเป็นผู้ถูกกระทำ
ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากรูปแบบกริยา ตัวอย่างเช่น A) Big John provided and wrote an English
column which describes English grammatical structure. B) Big John provided and wrote an English
column describing English grammatical structure. บิ๊ก
จอห์นได้เตรียมและลงมือเขียมคอลัมน์ภาษาอังกฤษของเขาอีก 1
คอลัมน์ที่บรรยายถึงเนื้อหาที่เกี่ยวกับโครงสร้างทางไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
สอง คือ
การลดรูป Relative clause ที่เป็น Adjective clause ในโครงสร้าง Passive
voice ให้เป็นวลี เราสามารถทำได้ดังนี้ เช่น Silk made in Thailand is
usually of good quality . เป็น Silk which is made in
Thailand is usually of good quality. จากประโยคข้างต้น
ที่อาจารย์ได้ยกตัวอย่างจากใบความรู้ จะพบว่าวลี which is นั้นถูกละ
(omit) และคงไว้แต่ V.3 แสดงว่า
คำนามที่ปรากฏหน้า V.3 นั้นถูกกระทำ หรืออยู่ในรูป Passive
voice นั่นเอง การละ Relative pronouns และ V.to
be ในประโยค Relative clause เพื่อให้ประโยคนั้นกระชับขึ้น
ดังนั้นเมื่อเราพบคำที่ลดรูปแล้วจะต้องทราบว่ากลุ่มคำนั้นลดรูปมาจากประโยคเดิมได้อย่างไร
และมีความหมายอย่างไร เช่น The lady
taking on the telephone is a secretary. เป็น The lady who is
taking on the telephone is a secretary. ผู้หญิงคนที่กำลังคุยโทรศัพท์เป็นเลขานุการ
ตัวอย่าง
การเปลี่ยนประโยคจาก Adjective
Clause ให้เป็น Adjective
Phrase โดยการให้นักศึกษาในห้องเรียนนำเสนอเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ประโยค Adjective Clause = A little bird singing
on the tree is the parrot. ประโยค Adjective Phrase = A little bird which is singing on the
tree is the parrot.
นกตัวเล็กๆซึ่งกำลังร้องเพลงอยู่บนต้นไม้คือนกแก้ว กลุ่มที่ 2 ประโยค Adjective Clause =
The car which have been stolen is mine. ประโยค Adjective
Phrase = The car having been stolen is
mine. รถยนต์ที่ถูกขโมยเป็นของฉัน และ กลุ่มที่ 3 ประโยค Adjective Clause =
The man who lives next door is a teacher. ประโยค Adjective
Phrase = The man living next door is a teacher. ผู้ชายที่อยู่บ้านถัดไปเป็นอาจารย์
ซึ่งตัวอย่างประโยคทั้งสามกลุ่ม ได้เป็น
การลดรูป Relative clause ที่เป็น Adjective clause ในโครงสร้าง Passive voice
เป็นการให้นักศึกษาได้ฝึกแต่งประโยคด้วยตนเองพร้อมทั้งอธิบายประโยคดังกล่าวและสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่แท้จริง
ดังนั้นการศึกษาในห้องเรียนครั้งนี้ ดิฉันได้เรียนรู้เนื้อหาทั้งหมด 2
ประเด็นคือ การใช้ Adjective Clause และการเปลี่ยน
Adjective Clause เป็น
Adjective phrase โดยการตัดตัว Relative
Pronouns เพื่อให้ประโยคดูกระชับน่าอ่าน ซึ่งเนื้อหาทั้งสองประเด็น ล้วนเป็นเนื้อหาที่มีความสำคัญในการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การแปลประโยคที่ถูกต้องและทำให้เราได้ฝึกแต่งประโยคด้วยตนเอง
สามารถนำประโยคมาปรับเปลี่ยนได้อย่างถูกต้องตามหลักการใช้ ดังเช่น การเปลี่ยนประโยค active voice เป็น ประโยค passive voice รวมทั้งทำให้เราเกิดความมั่นใจในการแต่งประโยคได้มากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น