Learning log 5
(นอกห้องเรียน)
หากหยุดการเรียนจากห้องเรียนจะเกิดอะไรขึ้น
แล้วมีหนทางอื่นที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ตลอดเวลาหรือไม่ คำตอบคือมีอย่างแน่นอน จะแก้ปัญหาและพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองได้อย่างไร
บางคนอาจสมัครเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษา
แต่นั่นช่วยให้คนเหล่านั้นใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นหรือไม่ หนทางที่ดีที่สุดของการเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สามใดๆก็ตามคือการไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการใช้ภาษานั้นๆแบบ
Full-time หรือพูดง่ายๆคือไปอยู่ต่างประเทศนั่นเอง
แต่จะมีสักกี่คนที่ทำแบบนั้นได้หากไม่รวยจริง
หรือไม่มีงานต้องรับผิดชอบในประเทศไทย อีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดี ประหยัด
และเรียนรู้ได้ตลอดเวลาคือการฝึกฝนด้วยตัวเองตามสื่อและช่องทางต่างๆ
ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนในโลกไร้พรมแดนในปัจจุบัน ระดับภาษาของแต่ละคนจะต่างกัน บางคนอาจบอกกับตัวเองว่า
"แย่" สิ่งที่จะต้องฝึกเบื้องต้น คือทักษะการฟัง เพราะการฟังเป็นทักษะการรับรู้
เรียนรู้ หรือนำข้อมูลเข้าใส่ตัว (Input) ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ง่ายกว่าการพูดหรือเขียน
การฟังเป็นการเรียนรู้ที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา
ไม่ว่าจะแค่ 1 นาที 5 นาที หรือเป็นชั่วโมง การฝึกที่ดีที่สุดคือการฟังข่าวภาษาอังกฤษ
ช่องทางการฟังมีหลากหลายมาก เช่น ดูข่าวผ่านทีวี CNN, BBC หรือช่องอื่นๆ
หรือ ฟังข่าวออนไลน์ผ่านมือถือ ซึ่งหาดาวน์โหลด Application เหล่านี้ได้ง่ายมาก
ประเด็นคือฟังไม่รู้เรื่อง แล้วอย่างนี้จะเรียนรู้ได้อย่างไร
สิ่งที่จะแนะนำคือพยายามฟังบ่อยๆ
หากมีเวลาพยายามตั้งใจฟังและพยายามจับให้ได้ว่าเขากำลังรายงานข่าวเรื่องอะไรอยู่
พยายามแยกแยะคำศัพท์แต่ละคำออกจากกันให้ได้ถึงแม้จะไม่รู้ความหมายของคำนั้นๆก็ตาม เพราะถ้าเราฟังเฉยๆลอยๆจะเหมือนกับเวลาฝรั่งอ่านหนังสือภาษาไทยที่ไม่รู้ว่าแต่ละคำจบตรงไหนเพราะเขียนติดกันเป็นพืดไปหมด
ดังนั้นช่วงเริ่มฟังใหม่ๆไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายหรือรู้เรื่องทั้งหมด
แค่พยายามจับคำของนักข่าวให้ได้ก็พอ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆอย่าเพิ่งท้อเพราะการฟังบ่อยก็ช่วยให้เราคุ้นชินกับสำเนียง
ท่วงทำนอง ระดับสูงต่ำ ของภาษาได้ไปในตัว
ฟังไปนานๆมันจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเราเองและไม่ช้าเราจะจับคำพูดที่เราฟังได้โดยที่ไม่ต้องพยายามอีกต่อไป ดิฉันเข้าไปที่ Leaning English ของ Voice of America
จาก http://learningenglish.voanews.com ในเว็บนี้จะรวบรวมข่าวพร้อมคลิปเสียงการบรรยายข่าวนั้นๆโดยเขาจัดทำไว้เพื่อให้คนฝึกฟังภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ
ดังนั้นการรายงานข่าวจึงไม่เร็วเกินไปและใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน
ดิฉันเลือกเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังเกี่ยวกับข่าว โดยเลือกประเภทการศึกษา
(Education) เรื่อง Everyday
Grammar เป็นการกล่าวถึงการใช้หลักไวยากรณ์ในปัจจุบันนี้
และการให้เนื้อหาเพิ่มเติม
หลักการเลือกใช้ Future tense ระหว่าง will และ be going to เราใช้
be going to เมื่อเราได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่าจะทำบางสิ่ง
เช่น I made a decision about
this weekend already. I am going to go fishing. (ฉันได้ตัดสินใจเกี่ยวกับวันหยุดนี้แล้ว
ฉันจะไปตกปลา) และ เราใช้ will เมือเราตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งในช่วงเวลาที่พูด
ผู้พูดไม่ได้ตัดสินใจมาก่อนล่วงหน้า เช่น Do you have a plan for this weekend? (คุณคิดว่าคุณมีแผนที่จะทำอะไรช่วงหยุดสุดสัปดาห์นี้) I think I
will go fishing.(ฉันคิดว่าฉันจะไปตกปลา)
ต่อมาคือการฝึกฟังจากการดูหนัง
หรือซีรี่ฝรั่ง คำแนะนำคือห้ามมี Subtitle หรือถ้าต้องมีจริงๆต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ห้ามเป็นภาษาไทยโดยเด็ดขาด
เพราะเราจะไม่ได้อะไรเลยจากการดูหนังในครั้งนั้น หรือการดูหลายๆรอบอาจจะทำให้เราเบื่อ
แต่เป็นกลวิธีที่ดีที่สามารถทำให้เรามีความคุ้นชินกับคำศัพท์และประโยคในหนัง การดูหนังหรือซีรี่ภาษาอังกฤษจะดีตรงที่ภาษาจะเป็นภาษาพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
โดยมีเคล็ดลับข้อแนะนำอย่าเลือกหนังที่เป็นหนังประวัติศาสตร์ย้อนยุค
เพราะเราจะไม่เข้าใจภาษา ถ้าเลือกได้ เว็บไซต์ส่วนใหญ่จะแนะนำหนังการ์ตูนของ Walt
Disney ดูน่ารักเพลินๆและภาษาเข้าใจง่าย
ส่วนซี่รี่ก็เลือกดูที่เราถนัด
ดิฉันเลือกดูหนังเรื่อง Julie &
Julia จูลี่ แอนด์ จูเลีย ปรุงรักให้ครบรส
เพื่อพัฒนาทักษะด้านการฟัง (listening skills)
โดยมีเรื่องราวว่า จูเลีย หญิงสาวที่เปลี่ยนวิธีการทำอาหารของชาวอเมริกันไปตลอดกาล
แต่ในปี 1948 จูเลีย ไชลด์ (เมอริล สตรีพ)
เป็นเพียงผู้หญิงชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสเท่านั้น งานของสามีเธอทำให้พวกเธอต้องมาตั้งรากฐานอยู่ในกรุงปารีส
และจิตวิญญาณนักสู้ของเธอก็ทำให้เธอโหยหาการได้ทำอะไรบางอย่าง ห้าสิบปีให้หลัง
จูลี พาวเวลล์ รู้สึกหมดหนทางไป เธอกำลังจะมีอายุขึ้นเลขสาม
เธอใช้ชีวิตอยู่ในควีนส์และทำงานซ้ำซากจำเจในขณะที่เพื่อนฝูงของเธอล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง
แต่แล้วเธอก็ได้ลงมือทำในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นแผนการสุดเพี้ยน
คือเธอตัดสินใจที่จะใช้เวลาหนึ่งปีพอดิบพอดีในการทำอาหารตามสูตรทั้งหมด 524
สูตรในหนังสือ Mastering the Art of French Cooking ของจูเลีย ไชลด์ และให้ข้อคิดว่าถ้าคุณมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความรัก
ความหลงใหล คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองและทำให้ฝันกลายเป็นจริงได้
ดังนั้นจากที่ดิฉันได้เลือกฝึกการพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษผ่านการดูหนัง
ทำให้ฉันรู้สึกว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะต้องมาควบคู่กับความขยันและอดทน หากขาดสิ่งนี้การเรียนรู้แทบจะไม่ได้ผลเลย
ภาษาอังกฤษไม่ใช่สิ่งที่ยากหรือน่ากลัว
แต่หากเราไม่รู้แล้วเกิดจำเป็นต้องใช้ในวันข้างหน้าความน่ากลัวอาจจะมาเยือน ก่อนทำการศึกษาเราควรรู้ระดับของตัวเองก่อนว่าภาษาเราแย่มาก
แย่ ใช้ได้ ดี หรือ ดีมากแค่ไหน วิธีทดสอบไม่ต้องไปหาแบบทดสอบมาทำให้ยุ่งยากเพราะเรารู้ตัวเราเองอยู่แล้วว่าเราอยู่ระดับไหน
แล้วตั้งเป้าหมายหรือหาจุดมุ่งหมายของการเรียนว่าเราจะพัฒนาทักษะด้านใดดี
ขั้นตอนต่อไปก็เพียงแค่เริ่มลงมือและอดทนเท่านั้นเอง ในที่สุดเราก็จะประสบความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น